จบสวย!! ถอดเครื่องมือไปอีก 1 เคส 🥰

👉 เคสจัดฟันเคสนี้ คนไข้อยากให้ปิดช่องว่างที่มีในช่องปากเนื่องจาก ฟันแท้ไม่ขึ้นมาในช่องปาก ทางคลินิกทำการ X-Ray ร่วมกับการตรวจฟันโดยละเอียดพบว่า มีฟันฝังที่เป็นฟันแท้ อยู่ใต้เหงือกและมีกระดูกคลุมอยู่บางส่วนทำให้ฟันไม่สามารถขึ้นมาได้ในช่องปาก

👉 เคสนี้สามารถรักษาได้หลายวิธี
1.ผ่าฟันฝัง แล้วปิดช่องว่างโดยการใส่ฟันปลอม ฐานพลาสติก,ฐานโลหะ,สะพานฟัน หรือรากเทียม
2.ผ่าตัดเปิดเหงือกกรอแต่งกระดูกแล้วจัดฟัน เพื่อดึงฟันขึ้นมาในช่องปาก ซึ่งคนไข้ได้เลือกวิธีการรักษานี้

👉 จะเห็นได้ว่าการดึงฟัน1ซี่ขึ้นมาจากฟันที่อยู่ในระดับกระดูกนั้นต้องใช้เวลาพอสมควร ในเคสนี้ใช้เวลามากกว่า 6 เดือน (บางครั้งไม่ได้ถ่ายรูป แต่ละรูปจาก 1-6 ห่างกัน 1 เดือนเป็นอย่างน้อย)

👉 ลักษณะปลายฟันที่ดึงขึ้นมา (ตามรูปหมายเลข 5) ตามธรรมชาติแล้วฟันจะไม่ได้มีลักษณะแบนเรียบเท่ากันทั้งด้าน แต่จะมีลักษณะเป็นลอน (mamelon) แต่ถ้าหากเกิดการเสียดสีเช่น การตัดอาการ การบดเคี้ยว ฟันจะแบนขึ้น ซึ่งในเคสนี้ต้องกรอแต่งเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม (ใกล้เคียงกับรูปร่างฟันที่เป็นคู่กัน) ภายหลังจากการกรอแต่งเรียบร้อยแล้วจะได้รูปร่างฟันดังรูปที่ 6

ผ่าฟันฝังเคสยาก!

👍ฟันฝัง เคสนี้รากงอมากและอยู่ลึกมาก หลังจากทำการผ่าตัดและติดตามผลการรักษาแล้ว เคสนี้ไม่มีอาการผิดปกติภายหลังการผ่าตัดครับ

👍เคสนี้เป็นเคสเคลียช่องปากก่อนจัดฟันของทางคลินิก ค่าใช้จ่ายรวมอยู่ในโปรโมชั่นเรียบร้อยแล้วครับ

อุดฟันแบบปกติ ( Direct Filling )

เคสนี้เป็นเคสอุดฟันปกตินะครับ โดยการบูรณะฟันมีหลายวิธีคับ เช่น อุดฟัน อินเลย์ ออนเลย์ วีเนียร์ ครอบฟัน เป็นต้น และ ค่าบริการก็จะต่างกันไปตามแต่ละวิธีครับ

อุดแบบ Direct คือเมื่อ ทพ. ตรวจพบฟันผุจะทำการอุดทันทีเสร็จในครั้งนั้นเลยครับ
ส่วนอุดแบบ Indirect คือเมื่อ ทพ. ตรวจพบฟันผุจะทำการกรอฟันผุ,ตรียมโพรงฟันและพิมพ์ปากในครั้งแรก และในครังที่สองจะนำวัสดุอุดที่ได้จากแบบพิมพ์ปากเข้าไปทำการอุดโพรงที่เตรียมไว้ครับ

ไม่อยากใส่ฟันปลอมแบบถอดได้!!!!เพราะมันต้องถอดเข้าถอดออกบ่อย!!! ทางคลินิกเรามีทางเลือกให้คนไข้นะครับ👌

👉 คนไข้ไม่อยากให้เห็นฟันหลอเนื่องจากถอนฟันมานานแล้วและคนไข้อยากให้สีฟันและรูปร่างของฟันดูเนียนไปกับซี่ฟันข้างเคียง, คนไข้ไม่อยากใส่ฟันเทียมแบบถอดได้

👉 ทางคลินิกจึงแนะนำทางเลือกให้คนไข้เลือกหลายวิธี 1.รากเทียม+ครอบฟัน เฉพาะซี่ที่หายไป 2.จัดฟันเพื่อดึงฟันปิดช่องว่าง+ครอบฟัน 3.สะพานฟัน

👉 คนไข้อยากทำแบบจบเร็วไม่อยากมาเปลี่ยนยางปรับเครื่องมือหลายรอบ, คนไข้กลัวการผ่าตัดฝังวัสดุโลหะ(Titanium Base, ส่วนรากเทียม) จึงจบที่สะพานฟัน โดยแต่ละวิธีจะมีข้อดี - ข้อด้อยแตกต่างกันออกไป และในสะพานฟันมีข้อด้อยคือ 1.ต้องกรอผิวฟันธรรมชาติของซี่ข้างเคียงออกไปบางส่วน ซึ่งแตกต่างจากการทำรากเทียมที่ไม่ต้องกรอผิวฟัน 2.การทำความสะอาดหลังแปรงฟันคนไข้ต้องใช้ไหมขัดฟัน(แบบธรรมดา+super floss)ร่วมด้วยทุกครั้ง

👉 สังเกตผิวฟันจะไม่ได้แบนราบไปทั้งด้าน แต่จะมีลักษณะความนูนเป็นสันของผิวฟัน ซึ่งถือเป็นลักษณะปกติของผิวฟัน แต่ถ้าหากคนไข้อยากได้ผิวฟัน แบนราบสามารถแจ้งได้ก่อนที่ทางคลินิกจะส่งแบบพิมพ์ปากให้แลปทันตกรรม

👉 ฟันที่รักษารากฟันเสร็จแล้วที่คลินิกทันตกรรมไอเดนทัลแล้วคนไข้อยากทำฟันเทียมแบบติดแน่น(ครอบฟัน)ต่อ ทางคลินิกปักเดือยฟันให้ฟรี!!

รายละเอียดบางส่วนของการฟอกสีฟัน

👉 ฟอกสีฟันมีผลกระทบกับผิวฟันไหม : ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่แน่ชัดครับ ว่าการฟอกสีฟันทำลายผิวเนื้อฟันธรรมชาติ

👉 ฟอกสีฟันใช้น้ำยาอะไร : ตามท้องตลาดผลิตภัณฑ์ทางทันตกรรมส่วนมากแล้วจะใช้น้ำยา 2 ชนิดครับ
1.hydrogen peroxide 2.carbamide peroxide ความเข้มข้นตั้งแต่ 3-40% ซึ่งทั้ง 2 ชนิดนี้มีความเป็นกรดอาจระคายเคืองผิวหนัง/อวัยวะได้ ดังนั้นควรอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์
ทางคลินิกมีสาร neutralizer ไว้ใช้สำหรับกรณีเกิดอุบัติเหตุ ระคายเคืองขณะทำการรักษาเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ทุกเคสครับ

👉 ฟอกสีฟันเสร็จแล้วเสียวฟันไหม : อาจมีเสียวฟันได้บ้างตามแต่ละบุคคล ซึ่งทางคลินิกมีสารลดเสียว(Desensitizing Agent)ทาให้คนไข้หลังจากทำการรักษาทุกครั้ง
และทางคลินิกแนะนำให้คนไข้ใช้ยาสีฟันลดเสียวซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งช่วยลดอาการเสียวฟันของคนไข้ได้ครับ

👉 ทำไมถึงเสียวฟัน : การเสียวฟันเป็น side effect อย่างหนึ่งของการฟอกสีฟัน(บาง paper บอกว่าอาจถึงขั้น reversible pulpitis)

👉 ขาวขึ้นแค่ไหนแยกยังไง? ขาวจริงหรือป่าว? : ในห้องแลปอาจใช้ spectrophotometer, แต่ทางคลินิกอาจใช้ Shade Guide เทียบก็เพียงพอแล้ว
โดยทางคลินิกของเราใช้ Shade Vita ในการเทียบ โดย เรียงลำดับตามความขาว(deg of Brightness)ได้เป็น B1>A1>B2>D2>A2>C1>C2>D4>A3>D3>B3>A3.5>B4>C3>A4>C4
เทียบจากภาพถ่ายก่อนทำและหลังทำครับ

👉 ขาวนานแค่ไหน? : ตอบได้ยากเนื่องจากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
เนื่องจากการฟอกสีฟันเป็นการสลายคราบที่ติดอยู่บนผิวฟันดังนั้น เมื่อคนไข้รับปประทานอาหารที่มีปัจจัยที่ทำให้ฟันติดสีได้ เช่น ชา กาแฟ โค้ก น้ำปลาร้า จะทำให้เกิดการติดสีใหม่ขึ้น
แต่โดยปกติแล้ว การฟอกสีฟันอาจจะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน แต่ในกรณีที่คนไข้ดูแลรักษาดีอาจอยู่ได้นานถึง 3 ปีหรือมากกว่า แต่ในทางกลับกันหากดูแลทำความสะอาดไม่ดี อาจอยู่ได้แค่ 6 เดือนหรือน้อยกว่า
ส่วนปัจจัยอื่นๆที่ทำให้ฟันขาวมากหรือน้อยและระยะเวลาที่ฟันขาวภายการหลังฟอก เช่น ชนิดของรูปแบบการฟอกสีฟัน ความเข้มข้นของสารที่ใช้ฟอกสีฟัน ชนิดของสารฟอกสีฟัน ระยะเวลาในการฟอกสีฟัน และอื่นๆ